ภาพรวม
ฟังก์ชัน SEQUENCE ใช้สำหรับสร้างตัวเลขแบบเรียงลำดับ อย่างเช่น 1, 2, 3, … โดยเราสามารถกำหนดได้ว่าจะเอากี่แถวกี่คอลัมภ์ รวมไปจุดเริ่มต้นและขั้นละเท่าไหร่ด้วย ต้วอย่างเช่น เราต้องการเลขเรียงลำดับเริ่มจาก 1 เพิ่มทีละ 1 จำนวน 3 แถว 4 คอลัมภ์ ดังภาพด้านล่างนี้
สูตรก็จะเป็น
=SEQUENCE(3,4)
รูปแบบการใช้งาน (Syntax)
=SEQUENCE(rows,[columns],[start],[step])
จำเป็น? | อาร์กิวเมนต์ | คำอธิบาย |
---|---|---|
จำเป็น | row | ตัวเลขจำนวนแถวที่เราต้องการ |
ไม่ใส่ก็ได้ | [column] | ตัวเลขจำนวนคอลัมภ์ที่เราต้องการ ถ้าไม่ระบุจะได้ 1 คอลัมภ์ |
ไม่ใส่ก็ได้ | [start] | ตัวเลขระบุจำนวนที่เป็นเริ่มต้น ถ้าไม่ระบุจะเริ่มที่ 1 |
ไม่ใส่ก็ได้ | [step] | ตัวเลขระบุจำนวนที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละขั้น ถ้าไม่ระบุจะเพิ่มขึ้นที่ละ 1 |
สิ่งที่ควรทราบ
- 💡ถ้าเราไม่ใส่อาร์กิวเมนต์ที่ระบุว่า ไม่ใส่ก็ได้ Excel จะสมมติว่ามันคือ 1
- ผลลัพธ์ที่ได้จะเริ่มจากเซลล์ที่เราใส่สูตรไปและไหล (spill) ลงด้านล่างไปจนกว่าจะได้จำนวนแถวที่เราระบุไป รวมถึงไปด้านซ้ายไปจนกว่าจะถึงความกว้างของคอลัมภ์ที่เราระบุไว้ ⚠️หากมีข้อมูลอยู่แล้วจะแสดง error เป็น #SPILL!
- ⚠️ หากคุณอ้างอิงค่าที่ได้จากฟังก์ชันนี้ข้าม workbook (ไฟล์) หากไฟล์ที่อ้างถึงไม่ถูกเปิดใช้งาน คุณจะได้ error เป็น #REF! ดังนั้นไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกับค่าที่ต้อง LOOKUP จากไฟล์อื่น
ตัวอย่างการใช้งาน
ที่จริงแล้วฟังก์ชันนี้ น่าจะมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้เราเตรียมข้อมูลบางอย่างไปทำต่อ โดยที่ไม่ต้องพิมพ์เองซ้ำ ๆ เช่น การสร้างเดือนเรียงจากมกราคมไปถึงธันวาคม โดยไม่ต้องใช้ Auto Fill ซึ่งก็ง่ายอยู่แล้วล่ะ 😂โดยไฟล์ตัวอย่างสามารถดูและดาวน์โหลดได้เลยครับ (File > Save As > Download a Copy)
=TEXT(DATE(YEAR(TODAY()),SEQUENCE(1,12),1),"mmm")
โดยผลลัพธ์ที่ได้ก็จะประมาณนี้
หากต้องการเดือนเป็นคำเต็ม ๆ ก็ให้เพิ่ม m ไปอีกตัว จาก mmm
เป็น mmmm
สร้างลำดับเป็นเลขถอยหลัง
หรือถ้าใครอยากใช้นับเลขแบบถอยหลัง ก็สามารถระบุตัว [step]
.ให้ติดลบได้อย่างเช่น
=SEQUENCE(10,1,9,-1)
ผลลัพธ์
สร้างลำดับจากเลขติดลบให้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับกรณีนี้ ให้ระบุ [start]
ให้มีค่าติดลบ เช่น
=SEQUENCE(10,1,-9,1)
ผลลัพธ์
หรือบางทีใช้สุ่มตัวเลขที่มีไม่ซ้ำกัน อย่างที่เคยเขียนไปแล้วเป็นต้น
Leave a Reply